ຂຽນເມື່ອ: ພ.ພ.. 23, 2010
| ມີ
14 ຄຳເຫັນ
ແລະ
0 trackback(s)
ເປັນການບັງເອີນ ທີ່ຜູ່ຂ້າຊອກຫາຕິດຕາມອ່ານຂ່າວທັງພາຍໃນປະເທດແລະຕ່າງປະເທດ
ແລະກໍມາພົບຂໍ້ມູນນີ້ຂື້ນມາ ເຫັນວ່າມັນກ່ຽວຂ້ອງກັບປວັດສາດ ບ້ານເຮົາເມືອງເຮົາ
ກໍເລີຍນຳມາສູ່ກັນອ່ານ , ກໍຕ້ອງຂໍໂທດທີ່ບໍ່ໄດ້ແປເປັນພາສາລາວ
ເພາະວ່າຜູ່ຂ້າເອງກໍບໍ່ສັນທັດທາງດ້ານພາສາ ຫາກແປໃປແລ້ວບາງຂໍ້ຄວາມອາດຈະເກີດມີການຄາດເຄື່ອນ
ກໍຫວັງວ່າໃຫ້ພີ່ນ້ອງເຮົາໄດ້ອ່ານແລະໄຊ້ວິຈະຣະນະຍານດ້ວຍຕົວເອງ.
ຖ້າຫາກມີການຜິດພາດປະການໃດ ໃນການນຳສເນີກໍຂໍອະພັຍມານະທີ່ນີ້ດ້ວຍ.
พระเสริมวัด ปทุมฯ
Pic_84624
วัดดปทุมวนารามฯ เขตอภัยทาน ระ-หว่างการสลายม็อบคนเสื้อแดง
แม้จะมี 6 ศพผู้เสียชีวิตเป็นปริศนาว่าใครยิงแต่สภาพทั่วไปภายในวัด
ก็ไม่มีร่องรอยความ เสียหาย มีคนไม่มากที่จะรู้ว่าภายในวัดนี้มีพระพุทธรูปโบราณ
ระดับพระคู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถและพระวิหารอยู่ถึงสององค์
ข้อมูลจาก หนังสือ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร
เขียนไว้ว่า ในกรุงเทพมหานครของเรานี้มีสิ่งดีๆมากมายอยู่ใกล้ตัวจนนึกไม่ถึง
เพียงเดินจากศูนย์การค้าฯสี่แยกราชประสงค์ มายังวัดปทุมวนาราม ใช้เวลา
ไม่เกินห้านาทีก็จะมีโอกาสกราบพระพุทธรูปสำคัญ
ตามประวัติพระ เสริม (หน้าตัก 2 ศอก 1 นิ้ว วัสดุสำริด) พระใส สร้างขึ้นพร้อมกับพระสุก
รวมกันสามองค์ เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของสามพระราชธิดากษัตริย์ล้านช้าง
ต่อมาก็ประดิษฐานไว้ในเวียงจันทน์ เมืองหลวงของล้านช้าง ราวกลางสมัยอยุธยา
จน ถึงสมัยกรุงธนบุรี ทัพไทยยกไปตีเวียงจันทน์ ชาวล้านช้างก็นำพระพุทธรูปสามองค์นี้ไปซ่อน
ศึกสงบแล้วก็นำกลับมาไว้ที่วัดโพนชัย เวียงจันทน์ ครั้นในสมัยรัชกาลที่ 1
สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาศักดิพลเสพ ทรงนำทัพไปตีเวียงจันทน์อีกครั้ง
โปรดให้เชิญพระเสริม พระใส พระสุก ลงแพข้ามแม่น้ำโขง
ระหว่างทางพระ สุกพลัดตกจมลงไปในน้ำ ในบริเวณที่เรียกกันต่อมาว่า เวินพระสุก
คง เหลือพระเสริมและพระใสมาถึงเมืองหนองคาย โปรดให้ประดิษฐานพระเสริมไว้ที่วัดโพธิ์ชัย
และพระใสไว้ที่หอก่อง (วัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)
พระเสริม พระใส ถูกอัญเชิญมาไว้ในกรุงเทพฯ ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดให้อัญเชิญพระเสริมไปประดิษฐานไว้เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดบวร สุทธาวาส ในพระบวรราชวัง
แต่เมื่อทอดพระเนตรแล้ว โปรดในพระพุทธลักษณะ จึงโปรดให้อัญเชิญพระเสริมไปประดิษฐาน
ไว้บนพระแท่นเศวตฉัตรในท้องพระโรง เพื่อจะถวายสักการะโดยสะดวก
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าสวรรคต แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดให้อัญเชิญพระเสริมไปไว้ยังพระวิหารวัดปทุมวนาราม เพื่อให้ อยู่วัดเดียวกับพระใส
ที่อัญเชิญมາประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว
อาจารย์ วรนันทน์เขียนว่า เมื่อถึงเดือน 6 ของทุกปี จะมีชาวบ้านผู้มีเชื้อสายล้านช้าง
ตั้งบ้านเรือนอยู่หลังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (เพลินจิต) พากันมาสักการะพระเสริม
โดยจัดปราสาทผึ้งและดอกไม้ไฟมาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
ข้อมูลจาก อาจารย์วรนันทน์ นอกจากพระเสริมประดิษฐานอยู่ในพระวิหารวัดปทุมวนาราม
ยังมีพระใสประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ แต่จากหนังสือพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเล่มเดียวกัน
อาจารย์วรนันทน์เขียนถึงพระใสอีกองค์ (ขนาดหน้าตัก 2 คืบ 8 นิ้ว วัสดุสำริด)
ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
เรื่อง ราวของพระใสองค์ที่หนองคาย...เป็นเรื่องเดียวกับองค์ในโบสถ์วัดปทุมวนาราม
แต่มีเกร็ดเพิ่มเติมว่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดให้อัญเชิญพระเสริม พระใส ไปไว้ที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ แต่ระหว่างอัญเชิญพระขึ้นเกวียน
เกิดเหตุเกวียนที่อัญเชิญพระใสหักที่วัดโพธิ์ชัยหลายครั้ง ชาวเมืองจึงพร้อมใจกันอัญเชิญพระใส ไว้ที่วัดโพธิ์ชัย
เป็นพระพุทธ รูปคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวหนองคาย และชาวอีสานกราบไหว้กันมาถึงปัจจุบัน
ข้อมูล อีกชุด จากหนังสือมิติลี้ลับในพงศาวดาร (สำนักพิมพ์สยามบันทึก) โรม บุนนาค เขียนไว้เป็นตอนหนึ่ง
ในเรื่องพระแก้วกับพระบางเป็นคู่อริกันว่า
พ.ศ.2407 เหล่าเสนาบดีพากันเข้าชื่อกราบทูลรัชกาลที่ 4 ว่า พระบาง รวมทั้งพระเสริม พระใส และพระแสน
(ปัจจุบันอยู่วัดหงส์รัตนาราม ธนบุรี) ซึ่งเป็นพระที่ชาวลาวนับถือ
เป็นต้นเหตุสำคัญ ทำให้เกิดฝนแล้งหนักข้าวยากหมากแพง ทรงสดับแล้ว ทรงพระราชดำริเห็นด้วย
ครั้น มาถึง ณ ปีขาล อัฐศก เจ้าอุปราชเมืองหลวงพระบางมาเฝ้าฯ
จึงโปรดให้รับเอาพระบางไปไว้ ณ เมืองหลวงพระบางตามเดิม
ส่วนพระเสริม พระใส โปรดให้ ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดปทุมวนาราม
ปริศนาที่จะ ต้องคลี่กันต่อไป พระใส องค์ที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
หรือพระใส องค์ที่วัดโพธิ์ชัย หนองคาย องค์ใดเป็นพระใส องค์จริง.
ຂໍ້ມູນມາຈາກໜັງສືພີມໄທຍ໌ຣັຖ ຄໍລັມ " ຄັມພີຈາກແຜ່ນດິນ ". ສບັັບວັນອາທິດ ທີ23 ພຶສພາ ພ.ສ2553.