ພັນລາວ.ຄອມ
ຊອກຫາ:
ຊອກຫາແບບລະອຽດ
ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ທ.ວ.. 11, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

คายะ  เขาตามมาช่วยฉัน !

เมื่อรถของพวกโจรจอด ก็กระชากตัวฉันลง และจับมัดมือ มันเท้า ไว้กับเก้าอี้ตัวหนึ่ง

" พวกแกจะทำอะไรฉัน ! "

" ก็แค่จักแกมาเรียกค่าไถ่ และก็ปล่อยแกไป "

" ทำไมต้องเป็นฉัน "

" ก็ครอบครัวแก ขัดขวางการโกงเงินของบริษัทที่ฉันทำอยู่ จนฉันโดนไล่ออกมานี่ไง "

" ก็แกจะโกงนิ มันก็สมควรแล้วนิไง "

" หึ ! ขืนแกพูดมากกว่านี้ ฉันจะทำมากกว่าเรียกค่าไถ่เลยคอยดู ! โทรหาพ่อเธอเดี๋ยวนี้ ! "

ปัง ! ! !

เสียงถีบประตูดังขึ้น คายะ นิหน่า

" ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นต้องให้เงินกับพวกชั่ว ๆ อย่างมันหรอก ฮันริ ! "

เขาเรียกชื่อฉันหรอ ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูกจนลืมความกลัวไปเลยซะทีเดียว

" มาคนเดียวคิดว่าจะได้ตัวนังนี่กลับไปหรอ คิดผิดคิดใหม่ได้นะไอ้หนู "

" ถึงฉันจะมาคนเดียว ไม่ได้หมายความว่าฉันจะแพ้นิหว่า ! "

พอพูดจบ คายะก็ชก และกระทืบตัวหัวหน้าของพวกมันอย่างเต็มที่ และในที่สุด พวกมันทั้งหมดก็น่วม

" คายะ ! พอเถอะ มาแก้มัดฉันก่อน "

พอฉันพูดจบ คายะก็รีบวิ่งมาแก้มันฉัน

" มันทำเธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า "

ฉันส่ายหัว

" นายมาช่วยฉันทำไม ฮึก ๆ ฮืออ "

" อย่าร้องนะ "

" ฮึก ๆ ฮือ ตอบฉันมาซิ "

" ก็เพราะฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอน่ะสิ ฉันเห็นเธออยู่คนเดียวมาตลอด และพอเธอเจอกับรุ่นน้องคนนั้น เธอก็ดูเข้มแข็งจนฉันอยากใกล้ชิดกับเธอ "

พอคายะพูดจบ เขาก็เข้ามาสวมกอดฉันอย่างอบอุ่น จนฉันลืมความกลัวและความเจ็บปวดเมื่อกี้ทันที

" เดี๋ยวเธอโทรให้คนขับรถบ้านเธอมารับเธอกลับละกันนะ "

" อื้ม อื้ม "

พอฉันพูดจบ ฉันก็หันหลังให้คายะ เพราะคิดว่า คายะจะพูดกับฉันเพียงเท่านี้

" ราตรีสวัสดิ์ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้านะ ^^ "

คายะ ยิ้ม ! ตั้งแต่คายะเข้ามาในโรงเรียนนี้ ไม่มีใครเคยเห็นเขายิ้มสักคน คงจะเป็นฉันคนแรกสินะ

" จ้ะ >//< "< "

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ທ.ວ.. 11, 2008 | ມີ 1 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

ตั้งแต่วันนั้น 2 สัปดาห์ วันที่อายาโกะได้เข้ามาในชีวิตของฉัน ฉันรู้สึกสนิทสนมกับอายาโกะมาก

" พี่ฮันริคะ วันนี้หลังเลิกเรียนไปทานไอศครีมกันนะคะ "

" ได้จ้ะ "

พอฉันพูดเสร็จ เหมือนมีคนมาแกล้งอายาโกะ หรือฉันคิดไปเองก็ไม่รู้ เพราะอายาโกะอารมณ์เดือดมาก และพูดออกมาว่า . .

" ฟูจิ ! นายอีกแล้วนะ " อายาโกะพูดเสียงดังมาก ๆ ออกมา ทำให้ฉันตกใจ

" แหม ! แค่สกิดนิดเดียวก็อารมณ์บูดแล้วหรอ " ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น

" ใช่ ไอหน้าปลาไหล "

" เธอนั้นแหละ ตูดหมึก "

" แมลงสาบ ! "

" จิ้งจก ! "

" ปลากระโห้ ! "

" ทั้งหมด ที่ด่ามาก็คือเธอนั้นแหละ ฮ่า ๆ ๆ " เด็กผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น และหัวเราะดังลั่น ฉันสงสารอายาโกะ และพูดขึ้นว่า . .

" ทั้งหมดก็คือนายนั้นแหละ ไม่ใช่อายาโกะ เจ้าเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม " ฉันเดือด

อายาโกะและเด็กคนนั้นทำหน้างง และมองที่ฉันเพราะคิดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดขนาดนี้

" ป้าเองก็สวยเหมือนกันนะครับ ท่าทางเป็นผู้ดีเหมือนคุณหนูผู้มีสกุลอันสูงส่ง แต่ไม่คิดว่าจะกล้าพูดเสียงดัง ๆ ได้ "

" เรียกที่ฮันริว่าป้าหรอ ยังงี้ต้องตบสั่งสอน " เมื่ออายาโกะพูดจบ ก็วิ่งไล่ตบเด็กคนนั้นอย่างเร็ว ( เหมือนเด็กเล่นกัน . . ฉันไม่น่าเข้าไปยุ่ง - - )

พอถึงบ้าน ฉันไปนั่งคิดถึงเรื่องของคายะ เดี๋ยวนี้คายะไม่มาโรงเรียนแทบทุกวัน หรือจะให้พูดว่าทุกวันดี

' คายะเป็นอะไรหรือเปล่าน๊า ' ฉันพูดพร้อมกับงงตัวเอง

" จะไปคิดถึงหมอนั่นทำไม " ฉันพูดกับตัวเอง

พอคิดไปคิดมา ฉันก็หลับไป  รุ่งเช้า . .

" คายะ ! "

ฉันเจอคายะที่หน้าประตูโรงเรียนและเรียกชื่อเขาอย่างดัง เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาวันนี้

" มีอะไร สนใจฉันหรอ " คายะพูดขึ้น เหมือนกวน ๆ แต่ดูเย็นชา

" จะบ้าหรอ ! แค่อยากถามว่าที่หยุดไปหลาย ๆ วันน่ะ ไปทำอะไร โดดหรอไง "

" ไม่ใช่เรื่องของเธอ ! " คายะพูดเสียงดังมาก

" เฮือก ! " ฉันตกใจ

" พี่ฮันริ ! " เสียงอายาโกะที่ตะโกนมาแต่ไกล

" เดี๋ยวนี้เป็นเพื่อนกับเด็กหรอ หึหึ " คายะพูด

" แล้วจะทำไม "

" เปล๊า ถ้าไม่มีเพื่อนจริง ๆ ก็เป็นเพื่อนกับฉันก็ได้นิ " คายะพูดและทำหน้าเศร้า และขยี้หัวของฉัน และเดินจากไป

" พี่ฮันริ คนเมื่อกี้ใครหรอ หล่อจังเลย ๆ  >//< "< "

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ທ.ວ.. 11, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

" คุณหนูตื่นเถอะค่ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะคะ "  เสียงแม่บ้านดังขึ้น

" ฮันริทราบแล้วค่ะ " ฉันตอบ พร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไปเตรียมตัวเพื่อไปโรงเรียน

จริงสิ ! วันนี้ฉันขึ้น ม.5 วันแรกนิหน่า ตื่นเต้น ! เมือฉันเตรียมตัวเรียบร้อย ก็ขึ้นรถ คันหรูทันที

" วันนี้คุณหนูสวยจังเลยนะครับ " คนขับรถประจำตระกูลพูดขึ้น

" ขอบคุณมากค่ะ "

เมื่อถึงโรงเรียน ฉันก็ เตรียมตัวที่จะไปดูบอร์ดว่าฉันเรียนห้องไหน

ฉันอยู่ห้อง A ห้องคิงนิหน่า

' กรี๊ดดดดดดดดด ! ' ฉันกรี๊ดในใจ

พอฉันเข้าห้องเรียนไปปุ๊บ ภายในห้องก็เงียบสนิท เอ๊ะ ! ฉันนั่งข้าง คายะ นิหน่า หนุ่มที่เย็นชาที่สุดในชั้นเรียน ตายแล้ว !

ติ๊งต๊อง ! ( เสียงแปลก ๆ นะ )

เสียงเตือนว่าการเรียนจะเริ่มขึ้นแล้ว !

" อ่าว สวัสดีนักเรียนที่น่ารักทุกคนจ้ะ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ไม่มีอะไรมาก อาจารย์จะ... ฉอด ๆ ๆ "

ฉันนั่งฟังอาจารย์พูดจนหลับ และเสียงที่หนึ่งที่ดังออกมาทำให้ฉันออกมาจากฝัน

" เปิดเรียนวันแรก ก็มาหลับ แล้วจะเรียนรู้เรื่องได้ยังไง " เป็นเสียงที่เย็นชา และฉันรู้เลยว่าเป็นเสียงของใคร

" คายะ ! "

" รู้จักฉันด้วยหรอ ? "

" ใช่ ชื่อดังออกจะตายไป เป็นหนุ่มที่เย็นชาที่สุดในชั้นเรียน "

" แล้วไง " เสียงเย็นชา ที่ฟังแล้วน่ากลัว ทำให้ฉันน้ำตาคลอ ทำไมฉันต้องน้ำตคลอด้วย และตัวสั่นหงิก ๆ

" มะ ๆ ๆ ไม่มีอะไร " ฉันตอบด้วยเสียงสั่นไหว

" เธอเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงร้องไห้ "

" กะ ๆ กะ ก็ ฉัน . . "

" เฮ้อ ! เรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า " เสียงแหลมปรี๊ด ของสาวซ่าที่ดในชั้นเรียนดังขึ้น

" ไม่ใช่นะ "

" หายเสียงสั่นแล้วหรอไง อยากให้คายะคุงสงสารหรอ ฝันไปเหอะ " แอลลีนพูดพร้อมกับผลักโต๊ะเรียนของฉันล้มลง

" ไปกันเถอะคายะคุง อยู่ที่นี่แล้วกลัว เชื้อ คุณหนูบ้าบอจะติดเอา " แอลลีนพูดอีกครั้งและควงแขนคายะไป

' คุณหนูบ้าบอ ' ฉันลองคิดทบทวนคำพูดของแอลลีนอีกครั้ง ฉันไปบ้าบอตอนไหนกัน

ติ๊งต๊อง !

เสียงเตือนเพื่อบอกให้ไปทานข้าวเที่ยง พอฉันออกมาจากห้องเสียงก็ได้ยินเสียง กรี๊ดกร๊าด กันใหญ่ ทำให้ฉันปวดหัวสมอง อ๊ะ !

" โอ๊ย ! " มีใครมีชนฉันเนี้ย เจ็บมากเลย

" ขอโทษค่ะ พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หนูไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษจริง ๆ นะคะ " เสียงใส ๆ ของเด็กมัธยมต้น ดังขึ้น

" พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ แต่เท้าแพลงนิดหน่อย " ฉันตอบ

" เท้าแพลง ! ไม่นิดหน่อยนะคะ เดี๋ยวหนูจะพาไปห้องพยาบาล "

" ขอบใจจ้ะ "

ในระหว่างที่ฉันเดินกับรุ่นน้องคนนั้นไปฉันก็เห็นคายะ สวนกับฉัน แล้วมองตามฉันมาอย่างเป็นห่วง

' เป็นห่วง ! ' ฉันคิดไปเองล่ะมั้ง  - -

" พี่คะ ถึงห้องพยาบาลแล้วค่ะ แต่อาจารย์ประจำไม่อยู่ งั้นหนูจะพันขาให้นะคะ ^^ "

" อ่ะจ้ะ ว่าแต่ . . หนูชื่ออะไรล่ะเนี่ย "

" อายาโกะ ค่ะ ^^ "

พอเด็กคนนั้นตอบเสียงร่าเริงและเป็นกันเอง และชื่นใจ เพราะฉันไม่เคยได้ยินใครพูดกับฉันแบบนี้มานาน 6 เดือนแล้ว . .

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ທ.ວ.. 11, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

๑.  ฮันริ

สาวไฮสคูล ตอนปลาย ปี 2 ห้อง 2 - A

มีผมสาวเลยหลังลงไป สีน้ำตาลอ่อน มีส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 49 กก.  

นิสัย : อ่อนหวาน น่ารัก อารมณ์อ่อนไหวง่าย

ความฝัน : อยากมีเพื่อน

๒.  คายะ

หนุ่มไฮสคูล ตอนปลาย ปี 2 ห้อง 2 - A

มีผมปรกหน้า แต่เป็นทรงผมที่สุภาพเรียบร้อย สูง 174 ซม. หนัก 56 กก.

นิสัย : เย็นชา ไม่ยึดติดกับสิ่งใดทำให้ทุกคนกลัว ได้

ความฝัน : อยากเป็นหมอ

๓.  อายาโกะ

เด็กสาวไฮสคูลตอนต้น ปี 3 ห้อง 3 - A

เด็กสาวตัวเล็กน่ารัก ผมซอยสั้น หัวโต ๆ สูง 154 ซม. หนัก 41 กก.

นิสัย : น่ารัก ร่าเริง คุยเก่ง เป็นกันเอง

ความฝัน : อยากไปเที่ยวรอบโลก

๔.  ฟูจิ

หนุ่มน้อยไฮสคูลตอนต้น ปี 3 ห้อง 3 - B

มีผมสีทองทรงเรียบร้อย ผมปรกหน้า สูง 165 ซม. หนัก 54 กก.

นิสัย : ร่าเริง มีเพื่อนเยอะ เข้ากับคนง่าย ชอบแกล้ง

ความฝัน : อยากเรียนหนังสือเก่ง ๆ

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 27, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : รักแท้มีจริงหรือไม่

เช้าวันนี้คือวันอาทิตย์ ฉันเดินเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะที่ใกล้บ้าน

โอ๊ย** ฉันเดินไปชนกับใครเข้า และผู้ชายคนนี้ก็หน้าตาดี ขาวสูงหล่อหน้าตี่ใช้ได้ เขาพูดขึ้นว่าขอโทษฉันบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ แล้วเขาก็ถามว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึป่าวคับ* ไม่เคยค่ะ/ฉันตอบ ออคับงั้นขอตัวก่อนน่ะคับ ค่ะ/ฉันพูด แล้วหลังจากนั้นฉันก็กลับบ้าน พอเช้าวันจันทร์ฉันก็เล่าใหห้เพื่อนฟังเพื่อนของฉันก็หัวเราะกันใหญ่ตอนนี้ เป็นเวลาพักกลางวันฉันเดินไปห้องน้ำและได้เจอผู้ชายคนนั้นเขาก็ทักฉัน และหลังจากวันนั้นที่เราเจอกันก็สรุปได้ว่าบ้านเขาอยู่ห่างจากบ้านฉันประมาณ 2 กิโลเมตร ฉันก็เลยสนิทกันจนมีคนบอกว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร พอวันเสาร์เขาพาฉันไปกินข้าวแล้วก็สารภาพว่าเขาแอบชอบฉัน เขาถามฉันว่าฉันน่ะรู้สึกยังไงกับเขาฉันเลยบอกไปว่าฉันก็......รักเธอ   ** จบ **

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 25, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

หลังจากที่เราเข้มแข็งได้แล้ว
ห้ามใจไม่ได้รักเขาได้แล้ว
ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
คิดและรู้สึกกับเขาได้อย่างคนธรรมดาสามัญที่รู้สึกดีต่อกัน
ไม่ต้องรู้สึกแบบพิเศษที่แอบแฝงด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา
และสามารถอยู่บนโลกใบเดียวกับเขาได้อย่างจริงใจที่สุด
เป็นธรรมชาติมากที่สุดโดยไม่ต้องกดดันอะไร

 

หวังว่าเขาคงเข้าใจในเหตุผลที่เรากระทำลงไป
เจ็บนะไม่ใช่ไม่เจ็บ
แต่สักพักก็คงจะหายดี
แล้วทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

อย่าหลอกตัวเองต่อไป ว่า …
น้ำตาจะล้างดวงตาของเธอ ให้มองเห็นชัดเจนขึ้น

เพราะในดวงตาที่พร่ามัว ไปด้วยน้ำตาอย่างนั้น
เธอจะมองเห็นอะไรได้ …
นอกจากความทรงจำหม่นมัว
และความฝันอันมืดมิด …

อย่ากล่าวโทษว่า … ตัวเองไม่ดี
ในความรัก ไม่มีใคร ดี หรือ ไม่ดี
มีแค่ "รัก" หรือ "ไม่รัก"
ต่อให้เธอทำดีแค่ไหน
ถ้าลองได้หมดรักแล้ว … ก็ไม่มีทางจะดีไปได้
ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : ขบวนการพิสูจน์รัก(แท้) ตอนที่ 1

1

                  สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ แป้งฝุ่น อยู่ ม.3

แอบชอบรุ่นพี่คนนึงชื่อว่า รุ่นพี่

นีออน ซึ่งอยู่ ม. 4 แต่ว่าฉันมีรูปร่างคือ

 หน้าสิว ใส่แว่น ผมยุ่ง คล้ำนิดนึง (เค้า

เรียกว่าดำ---คนเขียนเออนั้นแหละ

และก็ซุ่มซ่ามด้วยมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก

แค่ฉันไม่ค่อยระวังเอง

ฉันมีเพื่อนอีกคนนึงชื่อว่า เซียมซี ค่ะ

เซียมซีเป็นคนที่สดใสร่าเริง

น่ารักมากๆเลยด้วย

ส่วนพี่(นี)ออนก็มีเพื่อน

อีกคนนึงชื่อว่า ไนท์

ที่จิงแล้วพี่เค้ามีเป็นแก๊งค์

แก๊งค์พี่เค้าชื่อ Devil boy

แต่ว่าพี่ไนท์อ่ะสนิทที่สุดแล้ว

แต่ว่าจะทำยังไงล่ะ

ให้พี่นีออนสนใจแป้งฝุ่นคนนี้หน่อย

ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจ

ให้แป้งฝุ่นคนนี้

ด้วยนะคะ

-----------------------------

ชื่อตอน (chapter) : ขบวนการพิสูจน์รักแท้ ตอนที่ 2

6

ได้คุยกับพี่เค้าแล้ว(แต่มานม่ะใช่แบบนี้)

                ไฮ!เซียม!ซี!” ฉันทักเซียมซีขณะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ

                หวัดดีจ้า แป้งฝุ่นเซียมซียิ้มรับฉันอย่างน่าร๊าก~

                นี่ไปขนมกันนะฉันถามเซียมซีขณะที่ส่งสายตาบริ้งๆให้ด้วย + +

                อืม...ก็ไปสิไชโย๊

                เย้...ไปกันเล๊ยย...

โรงอาห๊ารอาหาร

                ซีจากินไรเดี๋ยวฝุ่นจาไปกินช็อคมูสซ้อคโกแลตมูสอ่าแหละค่ะ

                เดี๋ยวเค้ากินนมสดปั่นละกันนมสดอันนี้ก็น่ากินมีวิบปิ้งครีม(เขียนถูกมิ)ด้วยอร่อยมาก

                ไปหาที่นั่งกันเซียมซีบอกพลางหาที่นั่งไปด้วย

นั่นไงตรงนั้นอ่ะอือ อาหร่อยมั่ก คุ้มมั่ก แก้วละตั้ง 19 บาทเนอะ

ตุ้บ ว๊าย/เฮ้ยเห วอไปชนใครเข้าเนี่ย พะ..พี่นีออน อ๊าก น่าร๊ากที่สุด ตอนนี้อ่ะนะคือว่าเราเดินชนกันฉันก็เลยไปอยู่บนตัวพี่เค้าซะนี่ อ๊าก ยิ่งมองยิ่งน่าร๊าก

จะจ้องอีกนานม่ะ ก็รู้ตัวนะว่าหล่อแต่ว่ามันหนักนะโว้ยเห้ยๆ กำเวนลืมๆ

ขอโทดค่ะ ขอโทดเพล้ง ภาพพจน์ที่ฉันใฝ่ฝันไว้ พี่นีออนจะต้อง สุภาพ ไม่มี เรียบร้อย โอ๊ยอย่าพูด

เอ้อ มองไปมองมาก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยเพิ่มมาด้วยอาการเอิ๊ก หน้าม่อ

“>///<”<”

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายจอมป่วย ตอนที่ 6 มันคือเรื่องจริง

6

มันคือเรื่องจริง

     วินาทีนั้นเองสติของฉันก็ขาดผึง  อ้าปากจะร้องกรี๊ดเพราะจู่ๆก็มีอะไรบ้างอย่าง

มาอุดปากฉันไว้

     "ชู่ว...อย่าเอ็ดไป..."เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างๆหูมือที่อุดปากฉันไว้ข้างนั้น  อ้อม

มาจากด้านหลังเป็นมือของซาสึกินั่นเอง แต่เมื่อกี๊เนื้อตัวเค้าเย็นชืดไปหมดจริงๆนี่

นา  แต่ขณะนี้ท่อนแขนแข็งแรงที่โอบกอดฉัน  รวมทั้งฝ่ามือที่อุดปากอยู่ตอนนี้มัน

ก็อบอุ่น  จนน่าคิดว่าเมื่อสักครู่คงเป็นแค่ความฝัน  แต่ทำไมล่ะ...ในเมื่อฉันยังตื่น

อยู่แท้

     "ถ้าขืนเอะอะ  จะจูบซะเลยนะ"แน่ะ อีตาโรคจิตนี่  แต่พอเจอไม้นี่เข้า  ฉันก็เลย

ต้องยอมแต่โดยดี  ซาสึกิปล่อยมือจากปากฉัน แล้วถอนหายใจดังเฮือกพูดกลั้น

หัวเราะเบาๆว่า

     "ดึกดื่นป่านนี้มีธุระอะไรกับฉันหรอ?  หรือว่าจะมา...."เค้าพูดพลางชวนให้คิด

ลึก  ตาบ้าเอ๊ย-///-

      "ฮั่นแน่ๆหน้าแดงแปร๊ดเลย 5 5 5"เค้าพูดพลางหัวเราะชอบใจ

     " ไอ้บ้า"ฉันพูดในขณะที่หน้ายังแดงอยู่(จะย้ำทำไม-///-)แต่แล้วก็เห็นเข้าอีกจน

ได้  จะอะไรซะอีก  ก็พวกดวงวิญญาณเหล่านั้นน่ะสิ  ซาสึกิทำปั้นหน้าเครียด

(เปลี่ยนอารมณ์ไวจริ๊ง)พร้อมกับรวบตัวฉันเอาไว้ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เฮ้ย

ไม่ใช่เวลาที่จะมาเคลิ้ม  อ้อมแขนไว้อย่างแน่นหนา  ทำท่าราวกับว่าจะปกป้อง

นางเอกจากผู้ร้ายซะงั้น  แต่นี่มันเป็นผีนะ  แล้วก็ฉันก็เป็นนางเอกด้วย

     "ถึงจะทำอะไรฉันได้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก  ไปซะเหอะ"เขาตะโกนขึ้น  ทันใด

นั้นดวงวิญญาณเหล่านั้นก็ลอยวนอ้อยอิ่งไปรอบๆคล้ายจะเสียดาย  ก่อนจะหาย

วับไป ฉันขวัญบินไปถึงไหนก็ไม่รู้  ไม่เข้าใจอะไรเลย  ได้แต่ตัวสั้นงกๆ  ลืมแม้

กระทั่งว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอดสนิทแน่นของซาสึกิพอตั้งสติได้  ฉันก็ผละออกจาก

อ้อมอกของซาสึกิ หมุนไปตั้งหลัก  เอาหลังชนฝาพร้อมกับร้องถาม

     "นี่มันเรื่องอะไรกัน  ดวงวิญญาณเมื่อกี๊มันมาได้ยังไง  แล้วทำไมตัวเธอถึงได้

เย็นชืดเป็นศพยังงั้น  นี่อย่าก้าวเข้ามานะ  บอกมาก่อน"ซาสึกิยิ้นขันกับท่าทาง

ของฉัน

    "น่ากลัวจังแฮะ  นี่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ยอมให้ฉันกอดดีอยู่เมื่อตะกี๊รึป่าวน้า...

เมอิ  รู้ตัวมั้ย  เมื่อกี๊เธอน่ารักซะจนฉันอยากจะรักแล้วล่ะสิ^______^">///< ไอ้บ้า < ไอ้บ้า

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายตัวป่วน ตอนที่ 5

5

5

 

ปฎิบัติการค้นหาความจริง

คืนนั้นหลังจากแน่ใจว่าทุกคนหลับกันหมดแล้วฉันก็ย่องไปที่ห้องของซาสึกิอย่างเงียบกริบ

นี่เป็นการกระทำที่น่าหวาดเสียวมาก  จนตัวเองยังอดตกใจไม่ได้ที่กล้าลุกขึ้นมาทำอารายแบบนี้ยิ่งเข้าไปใกล้ฉันก็ยิ่งใจเต้นรัวเป็นตีกลอง  เค้านอนหลับนิ่งอย่างไม่รู้สึกรู้สา  แพขนตาหนาคลี่คลุมดวงหน้าสวย

ทันใดนั้น  ฉันก็เห็นอารายบางอย่างที่ชวนให้ขนหัวลุก  มันน่ากลัวจนฉันลืมที่จะกรี๊ดด

มันคือดวงวิญญาณจำนวนมากมายกำลังลอยวนไปมาอยู่เหนือร่างของซาสึกิ  ทีแรกฉันกลั้นใจเผล้งมองจนตาแทบจะถลน  แต่ยิ่งจ้องความกลัวก็ยิ่งแผ่คลุมไปทั้งร่างกาย  โอ๊ยย อย่าบอกนะว่างานนี้มีผีเข้ามาเอี่ยวอยู่ด้วยฉันจะได้ถอยไปตั้งหลักให้ไกลๆเลย  แต่ถึงยังงั้นฉันยังอุตส่าห์อดทนเอื้อมมือไปแตะที่แก้มเค้า

นี่ซาสึกิ  ตื่น.....แต่เสียงของฉันก็มีอันต้องชะงักไปกลางคันพร้อมๆกับรีบเอามือออกมาจากแก้มของซาสึกิ  เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะแก้มของซาสึกินั้นเย็นชืดเหมือนศพม่ะมีผิด  นี่มันอะไรกัน

อะ.... อะไรกันดวงวิญญาณยังลอยวนอยู่เหนือร่างของซาสึกิ  ฉันเลยเอามือทาบหัวใจเค้า  เพื่อจะดูว่ามันหยุดเต้นไปแล้วรึป่าว  หรือซาสึกิจะตายไปแล้ว  วินาทีนี้เองที่ทำให้ฉันแทบบ้า  ฉันเตรียมตัวที่จะร้องกรี๊ดดแต่ก็มีอารายบางอย่ามาอุดปากฉันไว้......

-----------------------------------------

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายจอมป่วน ตอนที่ 4

4

 

ความลับของซาสึกิ

                                                               

คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลย

                                                                ผลคือต้อนรับวันใหม่ด้วยอาการปวดรวดร้าวไปทั้งศีรษะ  ได้แต่เฝ้าภาวนา

ขออย่าให้ต้องเผชิญหน้ากับนายจอมวายร้ายนั้นอีกเลย  ส่วน ความคิดอันแสนประเสริฐที่วาดหวังไว้เสียดิบดี ว่าจะช่วยฟื้นความทรงจำของเค้าให้กลับคืนมาเร็วๆนั้น ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่แหละฉันจะไม่เสียเวลาคิดถึงมันให้รกสมองเป็นอันขาด

                                แต่โชคร้ายก็ยังไม่ยอมหยุดอยู่เพียงเท่านั้น มันเข้าตำราซวยซับซวยซ้อน

เมื่อนายซาสึกิจังตัวแสบมาเสนอหน้ารายงานตัวอยู่หน้าชั้นเรียน

                                สวัสดีครับ  ผมชื่อซาสึกิ  โมริคาว่า

                                โอ้...พระเจ้า  ไม่ใช่แค่เค้ามาโรงเรียนเดียวกับฉันเท่านั้น  เพราะโชคฉันยังร้ายกว่านั้น  เพราะนายตัวแสบย้ายเข้ามาเรียนในห้องเดียวกับฉันเลยอีก

                                ทีนี้ก็หนีไม่พ้นเลย ทั้งที่บ้านทั้งที่โรงเรียน  ใจคอจะไม่มีเวลาว่างให้ได้พักสงบสติอารมณ์กันบ้างเลยไง๊  >[ ]<<

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายจอมป่วน ตอนที่ 3

3

ฝันสาวแตกสลาย 2

--------------------------------

                        แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  เมื่อเค้าก้าวเข้ามายืนตรงหน้าฉัน 

แล้วพูดขึ้นด้วยหน้าตาทะเล้นๆว่า

                       "อ๋อ เธอหรอ  เมอิ ก้นก็เล็ก อกก็เล็ก อายุ 16 แล้วไม่ใช่หรอ ให้มันมีเนื้อ

อีกนิดสิ แถวนี้น่ะ" ว่าแล้วเค้าก็จับหมับเข้าที่หน้าอกสาวของฉันทันที  OoO

                       ">///<"<"

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายจอมป่วน ตอนที่ 2

2

ฝันสาวแตกสลาย

------------------------

                            แล้ววันนี้...พ่อก้กำลังไปรับเข้ามาที่บ้าน

                            ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาล  ไม่รู้  ทำไม  มีเหตุให้ไม่ได้พบเค้าเลยซัก

ครั้ง น้อยใจนะเนี่ย T^T

                           นี่เป็นการพบกันครั้งแรกในรอบ 6 ปีจิงๆหรอเนี่ย ถึงว่าล่ะหัวใจฉันมัน

ถึงได้เต้นบีบอยฮิปฮอปอยู่อย่างเนี่ยอ่ะ (เวอร์*คนเขียน) ก็แค่อย่างมีมุขบ้างอ่ะ ทีนี้เข้าใจ

รึยังอ่ะ  ว่าทำไมฉันถึงได้เป็นเอามากขนาดนี้

                            ~ ติ๊งต่อง ~  เสียงกริ่งที่ประตูหน้าบ้านเย้ๆ มากันแล้วฉันเปิดประตูวิ่ง

พรวดๆลงบันไดมาทันที  แม่ก็มายืนรอที่หน้าประตูแล้วท่าทางดูตื่นเต้นมาตั้งแต่เช้า

เหมือนกัน

                             " มาแล้วจ้า" เสียงสดใสของพ่อแว่วนำเข้ามาก่อนแล้วก็เดินเข้าประตู

มา  ตามหลังมาด้วยคนตัวสูงใหญ่...หัวใจฉันเต้นเป็นบีบอยแล้วน้า~~  คนตัวสูงใหญ่นั้น

คือ ซาสึกิจัง แล้วฉันก็แทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ ซาสึกิจัง...ไม่สิ ผู้ชายที่คิดว่าเป็น

ซาสึกิจัง เปลี่ยนไปจนไม่น่าเชื่อ เค้าสูงใหญ่เทียบกันไม่ได้เลยกับเมื่อ 6 ปีก่อน เค้าอยู่

ในชุดยีนส์ แขนขายาว รูปร่างสมป็นเกย์ เอ๊ย เป็นชายชาตรี (ดูม๊านเล่นไม่เลิก*คนเขียน)

เหอๆ ซาสึกิจังคนก่อนจาดูยังไงก้ตัวเล็กไม่ถึงกับบอบบาง แต่ก็ดูไปทางผู้หญิงมากกว่านะ

แต่ซาสึกิจังที่บวกอายุขึ้นมาอีก 6 ปีนี่ กลายเป็นคนละคนเลย แถมหล่อขึ้นด้วย (นิสัย

เหมือนเดิมเลย*คนเขียน)นั่นมันสาแล้ว(เออใช่ลืมไปคนละเรื่อง*คนเขียน)มั่วจิงๆ

จมูกงี้เป็นสัน ริมฝีปากสวยจนน่าตกใจน่าจูบด้วย อิอิ แล้วที่เหนือสิ่งอื่นใด  คือดวงตายาว

รีสีน้ำตาลเข้ม ที่มองลอดเส้นผมปรกหน้าผาหยาวๆนั้นออกมามันดูไม่ค่อยเป็นมิตรยังไง

อยู่น้า  พอได้สบตาคู่นั้นเข้าทีนึง ก็แทบจาไม่กล้ามองอีกเลย

                           แต่นั่นแหละ ยังไงซะฉันก็ใจเต้นจะอกจะระเบิดแทบทรุดลงไปกองอยู่

ตรงนั้นให้ได้เมื่อก่อนก้ว่าเท่บาดใจซะแล้วนะ มาตอนนี้ยิง่กลายเป็นหนุ่มหล่อเต็มตัวไป

กันใหญ่ >///<<

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 23, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ
ชื่อตอน (chapter) : สะดุดรักสลับร่างนายตัวป่วน ตอน แนะนำตัว

สวัสดีคร่าทุกๆคน

เราจาแต่งเรื่องใหม่อ่ะ

ก้อคือเรื่องนี้นี่แหละ

เพราะว่าเรื่องนั้นยังคิดมะออก

ก้อเลยเสนอเรื่องนี้มาก่อน

อันนี้ตัวละครๆหลัก

ก็มีเพียงแค่นางเอก - พระเอก

เท่าเนี้ยแหละคร่า

ยังไงก้อฝากผลงานด้วยนะคะ

เดี๋ยวเราจาเขียนเรื่องนี้ให้จบก่อน

แล้วค่อยขึ้นเรื่องนู้นดีมั้ยหรือว่า

จาให้สลับกันไปมา

เราว่า อันแรก ดีกว่าเนอะ

เดี๋ยว งง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

เอาหล่ะตัวแรก

alt

1. สวัดีฉันชื่อ นาสึนากะ  เมอิ  นักเรียน ม.4 อายุ 16 ปีเป็นผู้หญิงธรรมด๊า ธรรมดา

ตอนนี้ที่บ้านมีญาติเป็ฯชายมาพักอยู่ด้วย  เค้าคนนี้แหละเป็นความรักครั้งแรกของฉันเมื่อ

6 ปีก่อน

alt

2. คนนี้ไง  โมริคาว่า  ซาสึกิ  อายุ  16  ปี  เค้าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมพ่อกับแม่

ถึงหัวใจจะเต้นใหม่อีกครั้ง  แต่เค้าเปลี่ยนไป... เหมือนเป็นคนละคน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 22, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

ก่อนอื่นต้องขออภัยสำหรับเจ้าของต้นเรื่อง มันอาจตอกย้ำความเจ็บปวดกับคุณในเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรเผยแพร่เพื่อตอกย้ำคนที่ได้ชื่อว่าลูกทุกคนให้ หันกลับมาดูคนที่ส่งเสียคุณเลี้ยงดูคุณมาด้วยความเหนื่อยยาก วันนี้เราหันไปเหลียวท่านบ้างหรือเปล่า ก่อนจะไม่มีโอกาสดูแล เมื่อท่านจากเราไปแล้วการจัดงานใหญ่โตมันไม่มีประโยชน์อะไร เวลาท่านอยู่ทำไมไม่ทำ ?



ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่ บรรยายออกมาจากใจ ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เรียน เที่ยว นอน กิน ดึกๆผมก็โทรคุยกับแฟนของผม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผมและผมก็เชื่อว่าใครๆเค้า ก็ทำแบบนี้กัน "จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง" "กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้า มั้ยเนี่ย" "รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง ""ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ"



ประโยค ต่างๆที่ผมได้คิดและคัดสรร เตรียมพร้อมมาต่างๆก่อนโทร ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์ ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน "เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง



กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน " "ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง""เย็นนี้กินข้าวอิ่ม มั้ย" "วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง" "อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ" โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง" จนกระทั่งวันนั้น "ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย" "เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ"" แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ"



ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า "Home""โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย" ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ "และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่"



หลัง จากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืนและได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา "ผม" สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือโทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ คนเดียวในโลกที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ คน

เดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม "และคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต"



ใน บางครั้งประโยคที่ว่า "ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว" มันก็ไม่เป็นความจริง"เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว " อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆชั่วโมงคุยกับเธอก็ ทิ้งผมไป วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น

หลายๆอย่างที่คนส่วนใหญ่ ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง "เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป" ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์ รอที่จะตอบคำถามเดิมๆให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 22, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

I know well I have no right to love you:
I gave you up, and now you're with my friend.
But I can't stop myself from thinking of you,
Even though that's not what I intend.
I want you but I also don't want you
To hurt my friend by breaking up with her.
So things go wrong no matter what you do;
I long for what I don't want to occur.
Ah, me! I'm in a soap and can't get out!
Help me if you can by being kind.
I tell you this to banish any doubt
That I'll be waiting, if you're so inclined.
But please, please, if my friend still has your love,
Forget completely what I've spoken of.

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ພ.ຈ.. 22, 2008 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)
ໜວດໝູ່: ຄວາມຮັກ

Now, you must be wondering what exactly is this loveletterbox diary all about?

Well, this is a little journal of love, which we have specially arranged for you. What you will find in it are actually some of the very questions and problems on love and relationship, posted by friends in our love discussion forum.

We have specially picked them out from among the many to be sharing with you. They are of the most frequently asked and encountered from our love discussion forum. We believe you will be, just as like the many friends in our love discussion forum, finding interest in these areas too.

The discussion includes some of the topics like, difference between love and lust, being dangerously in love, tips to get over a break-up, long distance relationship advice, how to tell if that someone like you, saying of I love you and more.

Now, these very questions and problems of love are indeed what many of us would have been or are going through in our path of love. They are certainly worth more of our very thoughts and better understanding...

We believe you do have some of that little free time?

Well, why not just have a look and browse through this little journal of love? It will definitely be in a way or more, providing you with just some positive thoughts and encouragement...