ພັນລາວ.ຄອມ
ຊອກຫາ:
ຊອກຫາແບບລະອຽດ
ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ມ.ນ.. 22, 2010 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)

 

องค์บาก3
โปสเตอร์ดูเหมือนการ์ตูนเลยแฮะ

อีกไม่นานแล้ว ก็ใกล้จะถึงวันที่ บุรุษผู้นี้ จะเข้ามาปิดตำนานที่คนทั้งประเทศหรืออาจจะทั้งโลกรอคอยอยู่ กับ จา พนม แห่ง องค์บาก3 กับโปสเตอร์ทีเซอร์ภาพนี้ ถ้ายังจำกันได้ ตอนจบของภาคที่แล้ว ก็โดนจับไปแบบอึ้งกันทั้งโรงว่า อ้าว ไหงงั้นหล่ะ มาภาคนี้ พี่แกก็คงจะออกมาล้างแค้น แล้วก็ล้างแค้น

สำหรับแฟนๆที่แวะเข้าโรงหนังในช่วงนี้ คงได้เห็นทีเซอร์สั้นๆ ความยาว1 นาที ที่ฉายในโรงหนังกันบ้างแล้ว ว่า น่าสนใจขนาดไหน อีกไม่นานเอ็มไทยจะเอามาลงให้ดูบ้างนะ ส่วนกำหนดฉายหนัง ประกาศไว้ ณ ที่นี้เลยว่า 5 พ.ค. วันฉัตรมงคลนั่นเลย ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ส่วนตอนนี้เรามาดูกันก่อนว่า เราจะเห็นอะไรในองค์บาก3 บ้าง

องค์บาก3
หืม!! ใช่ ภาคนี้ มี จา พนม สองคน มารขาว ปะทะ มารดำ (แล้วเดี่ยว ชูพงษ์ อยู่ไหนหว่า)

องค์บาก3
ภาค3 น้องจ๊ะจ๋า คงได้ออกมาเยอะหน่อยนะ

องค์บาก3
นี่ก็คงเป็นการฝึกวิชาอะไรสักอย่าง ไม่ใช่วิชากรีดเลือดแน่ๆ

องค์บาก3
แน่นอน การต่อสู้บนหลังช้าง ยังไม่จบครับ โหนงาซัดเลย

องค์บาก3
โลเกชั่นนี้ ยังใช้ไม่คุ้มเลย มาลุยกันต่อ

5 พ.ค. 52 จะได้พบกับบทสรุปของตำนานองค์พระหน้าบาก รวมไปถึงชะตากรรมของ เทียน (จา พนม ยีรัมย์) และเรื่องราวการต่อสู้ของบุรุษผู้เกิดมาเพื่อเป็นตำนานอย่างแน่นอน องค์บาก 2 ฉายไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 นานพอสมควร คงต้องหยิบมาดูซ้ำอีกรอบแล้ว จะลืมแล้ว แหะแหะ

แท็ก: ong bak 3, จา พนม, ช้าง, สหมงคลฟิล์ม, หนังไทย, องค์บาก3, โทนี่ จา, โปสเตอร์

ຂຽນເມື່ອ ຂຽນເມື່ອ: ມ.ນ.. 22, 2010 | ມີ 0 ຄຳເຫັນ ແລະ 0 trackback(s)

ทัพหนังปี52 ค่ายใบโพธิ์ระดมหนังฟอร์มยักษ์ เน้นหลากหลายแนว
รัก-แอ็คชั่น-อารมณ์ดี-สยองขวัญ ระดมผู้กำกับแถวหน้าดาราแม่เหล็กสุดฮอต

Openmm.com Movie InEntertainment วันที่ 5 มกราคม 2552  
 


               จัดทัพรับศึกหนังปี2552 มาชนิดเต็มอัตรา การันตีความเป็นค่ายผู้สร้างหนังไทยเบอร์1 สำหรับ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” เพราะดูจากจำนวนภาพยนตร์ไทยที่ค่ายใบโพธิ์ เตรียมออกฉายตลอดทั้งปี เมื่อเทียบกับปีกลายแล้วแทบจะไม่ได้ลดลงเลยทีเดียว หัวเรือใหญ่อย่างเสี่ยเจียงยังเตรียมประกาศเปิดกล้องสร้างหนังไทยในปีนี้เพิ่มอีกเกือบ 10 เรื่อง หนังทุกเรื่องระดมนักแสดงระดับแม่เหล็กยอดนิยมและผู้กำกับชั้นแนวหน้าของเมืองไทยโดยยืนยันเน้นที่คุณภาพและความหลากหลายของภาพยนตร์เอาใจคนดูหนังทุกกลุ่มอย่างแท้จริง



“บริษัทเราเป็นบริษัทหนังไทย มีอาชีพเดียวคือทำหนัง เพราะฉะนั้น เราต้องผลิตงานสร้างหนังออกมาที่มีคุณภาพ พล็อตเรื่องที่แปลกใหม่และน่าสนใจ หนังที่คนไทยชอบดูก็ไม่ทิ้ง รวมไปถึงหนังฟอร์มยักษ์ที่ต้องลงทุนเพื่อไปฉายยังต่างประเทศ เชื่อว่าหนังของเราหลากหลายที่สุด มีให้ดูทุกแนวไม่แพ้หนังจากต่างประเทศ รองรับคนดูทุกกลุ่ม ปีนี้จะได้ดูหนังของผู้กำกับเก่งๆ ของเมืองไทยอย่างนเรศวรภาค3ของท่านมุ้ย, 14 ของมะเดี่ยว, หนังบุปผาราตรีภาค3ของต้อมยุทธเลิศ, หนังแอ็คชั่นของจีจ้าเรื่องที่2 กำกับโดยราเชนทร์, จากับพันนากลับมากำกับองค์บากภาค3, หม่ำทำวงษ์คำเหลาและแหยมยโสธรภาค2 ฯลฯ หนังทุกเรื่องก็จะเป็นหนังที่มีดาราระดับแม่เหล็กที่ได้รับความนิยมมาแสดง”



เป็นที่แน่นอนแล้วว่าค่ายใบโพธิ์ยังคงอัดแน่นไปด้วยหนังไทยฟอร์มยักษ์ลงทุนมหาศาลอย่างต่อเนื่องจากปี51 ไม่ว่าจะเป็น




“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค3 : ยุทธหัตถี”

กับบทสรุปของอภิมหากาพย์ภาพยนตร์ไตรภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กับภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซโดย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล สานต่อเรื่องราวความกล้าหาญกับวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินของ “พระองค์ดำ” และเหล่าบุคคลสำคัญที่ได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ พบกับเหล่าทัพนักแสดงจากตำนานสมเด็จพระนเรศวรจากภาค 1 และ 2 ครบทีม อาทิ พันตรีวันชนะ สวัสดี , พันโทวินธัย  สุวารี, นพชัย  ชัยนาม, อินทิรา  เจริญปุระ, ทักษอร  ภักดิ์สุขเจริญ , ปราบต์ปฎล  สุวรรณบาง, สรพงษ์   ชาตรี พร้อมเสริมความเข้มข้นสุดยิ่งใหญ่ในภาคที่ 3 ด้วยนักแสดงชุดใหม่ทั้งในและต่างประเทศอาทิ จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข, นุ่น-ศิรพันธ์  วัฒนจินดา , ดอม เหตระกูล, นุ้ย-เกศริน เอกธวัชกุล, ฉีเส้าเฉียน ฯลฯ จับตาชมไฮไลท์สำคัญกับการเนรมิตฉากมหาสงครามยุทธหัตถีที่น่าตื่นตากับโปรดักชั่นงานสร้างสุดอลังการและฉากเหตุการณ์ใหม่ๆที่ยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทั้ง 2 ภาคไม่ว่าจะเป็นการจำลองเมืองละแวก ราชวังเขมร , ฉากเมืองท่าอยุธยาในอดีต,เหล่ากองทัพทางเรือและมหาสงครามทางน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจาก 2 ภาคแรกท่านมุ้ยทรงถ่ายทอดรูปแบบการรบอันยิ่งใหญ่ในภาคพื้นดินมาแล้ว





“องค์บาก 3”

กับบทสรุปของ “ตำนานองค์บาก” ที่คนทั้งโลกรอคอยกับโปรเจ็คต์ที่ว่ากันว่าจะใช้ทุนสร้างมหาศาลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทุนสร้าง 300 ล้านบาทในภาค2 สำหรับ “องค์บาก3” การกลับมาแท็คทีมร่วมกันเป็นหนที่4 ของบิ๊กโฟร์ “เสี่ยเจียง-ปรัชญา-พันนา-จา พนม” (องค์บาก1-2-3,ต้มยำกุ้ง) ว่ากันว่าสิ่งที่ปรากฎอยู่ใน องค์บาก 2 เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะสิ่งที่ จา พนม ต้องการนำเสนอใน “องค์บาก3” แม้แต่ปรมาจารย์คิวบู๊อย่างพันนา ฤทธิไกรที่คร่ำหวอดในภาพยนตร์แอ็คชั่นมาทั้งชีวิตยังยืนยันว่านี่คือ จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวิถีภาพยนตร์แอ็คชั่นของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “นาฏยุทธ์” ศิลปะการต่อสู้ที่ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของแอ็คชั่นฮีโร่มือ1 อย่างจา พนมซึ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ กับเรื่องราวที่เข้มข้นยิ่งกว่ากับการย้อนสู่จุดกำเนิดที่มาขององค์บาก องค์พระพุทธรูปหน้าบากอย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงจุดคลี่คลายของตำนานการต่อสู้แห่งจิตวิญญาณที่หลอมรวมพลังศรัทธาอันมุ่งมั่นซึ่งไม่เคยดับสูญของบุรุษผู้เกิดมาเพื่อเป็นตำนานพร้อมทีมงานและนักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทยระดับยกทีมที่กลับมาร่วมสร้างปรากฎการณ์ “องค์บาก” กันอีกครั้ง อาทิ นิรุตติ์ ศิริจรรยา, หม่ำ จ๊กม๊ก, จ๊ะจ๋า พริมรตา, ต๊อก ศุภกรณ์โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การเผชิญหน้ากันสุดมันส์ของคิวแอ็คชั่นของเดี่ยว ชูพงษ์และจา พนม





 

“จีจ้าโปรเจ็คต์”

หนังแอ็คชั่นเรื่องที่2 ของ “จีจ้า ญาณิน วิสมิตะนันทน์” แอ็คชั่นฮีโร่หญิงหน้าหวานเจ้าของสโลแกนเล่นจริงเจ็บจริงที่คราวนี้มาในแนวแอ็คชั่นโรแมนติค พร้อมเปลี่ยนลุคส์ใหม่เน้นสีสันสดใสตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน และดุดันขึ้น ภายใต้การกำกับของราเชนทร์ ลิ้มตระกูล (โลกทั้งใบให้นายคนเดียว, จูบ)





“นาคปรก”

คือภาพยนตร์แอ็คชั่นดราม่าสุดเข้มข้นแห่งปีที่โดดเด่นทั้งฝีไม้ลายมือทางการแสดงของ 4 นักแสดงอย่าง สมชาย เข็มกลัด, เร แม็คโดนัลด์, เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ (ไอ้ฟัก), ทราย เจริญปุระ ชนิดที่ว่าโปรดิวเซอร์อย่างปรัชญา ปิ่นแก้วยืนยันว่าสิ่งที่คอหนังจะได้เห็นคือ “การดวลทางด้านการแสดง” และการันตีว่านี่คือบทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกเขาและเธอ พร้อมด้วยการแสดงการแสดงระดับขึ้นหิ้งของ “สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์” และ “รัชนู บุญชูดวง” ชนิดที่ว่าห้ามกระพริบตา ภายใต้การตั้งคำถามที่ว่า “ศาสนาจะสามารถขัดเกลาความดีที่มีอยู่ในตัวตนของคนที่เลวที่สุดได้หรือไม่” โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่านโจรปล้นรถขนเงิน 3 คน(เต๋า,เร ,เต้) ที่ถูกวังวนของกิเลศ ความโลภ การทรยศ หักหลังครอบงำและชักนำ ไปสู่ทางเลือกในการเผชิญหน้ากับความดีและความชั่วที่แฝงเร้นอยู่ในตัวตนของแต่ละคน เมื่อจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นพระเพื่อที่จะหาโอกาสแอบขุดเอาเงินที่เคยซ่อนฝังดินไว้ระหว่างที่หนีจากการตามล่าของตำรวจ ซึ่งตอนนี้ที่ดังกล่าวถูกเจ้าอาวาสปลูกสร้างเป็นโบสถ์ขึ้นใหม่ และเป็นจุดเริ่มต้นของ "นาคปรก" “กระจกเงาแห่งศรัทธา” ที่จะพาผู้ชมเข้าไปสัมผัสถึงด้านมืด และส่วนที่อยู่ลึกที่สุดในจิตใจของมนุษย์แต่ละคนว่าแท้จริงแล้วยากแท้หยั่งถึงจริงหรือ  




“14”

หนังภาคต่อที่หลายคนรอคอย กับบทสรุปของ “12” และ “13 เกมสยอง” ภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนจากสถาบันต่างๆ ในเมืองไทย และเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ จากทั่วโลก จนฮอลลีวู้ดต้องขอซื้อสิทธิ์ไปรีเมค ตีแผ่และกระชากคุณค่าของความเป็นมนุษย์ได้อย่างขนลุกกับเกมสยองที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ผลงานแจ้งเกิดของ “มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” ที่ทำให้คอหนังจากทั่วโลกต่างยกย่อง แท็ค ทีมเขียนบทร่วมกับ “เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์” (ยันต์สั่งตาย, 13 เกมสยอง, บอดี้ศพ19)



นอกเหนือจากหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ค่ายใบโพธิ์ยังเตรียมทัพหนังเขย่าขวัญสยองขวัญหวาดระทึกที่ทุกโปรเจ็คต์ล้วนเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในตัวเองที่รับประกันว่าชวนผวากันทุกโปรเจ็คต์เลยทีเดียว





“บุปผา3”

ถ้าความสยองของ “บุปผา 1” ทำให้คุณหลอนจนนอนไม่หลับ และ “บุปผา 2” ทำให้คุณหวาดผวาจนไม่กล้าหลับตา เตรียมพบความสยองคูณ 3 ของผีสาวที่จะมา "ฮา" ละวาดเรียกเสียงกรี๊ดให้ออสการ์อพาร์ทเมนท์แตกตื่น...อีกครั้ง



5 ปีเต็มหลังจากบุปผาราตรีภาคแรกออกมาอาละวาดบนแผ่นฟิล์ม นี่คือการกลับมาของภาพยนตร์สยองขวัญภาคต่อที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของ “ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค” โดยมี “พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์” กลับมารับบทผีบุปผา พร้อมพระเอกหนุ่มสุดฮอตอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่เคยประกบบทบาทร่วมกันมาแล้วจาก “รักแห่งสยาม” แถมงานนี้หนุ่มโอ้ยอมเปิดซิงโดดมาเล่นหนังผีเรื่องแรกในชีวิต และเป็นการกลับมาร่วมงานกับค่ายใบโพธิ์เป็นครั้งที่3 โดยทั้งผกก.และนักแสดงทั้งคู่พร้อมแล้วที่จะกลับไปสร้างความสยดสยองขนหัวลุกร่วมกัน ณ “ออสก้าร์อพาร์ทเมนท์” แห่งเดิม งานนี้ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ถูกถอดคราบหนุ่มสุดฮ็อต ให้มามองเห็นผีได้และดันแอบหลงรัก "บุปผา" (พลอย เฌอมาลย์) โดยไม่รู้ว่าเธอเป็นผีสาวเฮี้ยนรัก ณ ห้อง 609   ความสยองยกกำลัง 3 ของผีไทยสไตล์ "ยุทธเลิศ" จึงกลับมากระตุกต่อมฮาสยองให้ของขึ้น พร้อมเซอร์ไพร้ส์...เพียบ





“มหา’ลัยสยองขวัญ”

หวาดผวา ชวนขนลุก กับตำนานสยองของแต่ละสถาบันการศึกษาที่บอกเล่าสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นจากขอบรั้วมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตำนาน “ลิฟท์แดง” , “ป๊อกป๊อก...ครืด...” , “ศาลในห้องน้ำหญิง”, “พยาบาลชุดแดง+ศพหาย”  ฯลฯ หลังจากบ่มเพาะเสาะหาข้อมูลมานานนับปี เรื่องเล่าสยองขวัญระดับตำนานกำลังจะขึ้นจอใหญ่ภายใต้การกำกับของ  บรรจง  สินธนมงคลกุล (ว้อ) และสุทธิพร  ทับทิม มือตัดต่อระดับรางวัลที่อยู่เบื้องหลังหนังผีอย่าง เฮี้ยน, ปอบ หวีดสยอง, COLICโดยมี 4 นักแสดงสาว เป้ย ปานวาด, แอนนา รีส (ปืนใหญ่จอมสลัด) , หนูจ๋า-อาชิรญาณ์ ภีระภัทร์กุญช์ชญา (คนไฟลุก, มนุษย์เหล็กไหล) , แอร์ ภัณฑิลา ฟูกลิ่น (รับน้องสยองขวัญ, สตอเบอร์รี่ชีสเค้ก) รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญสั่นประสาทด้วยตัวเอง



“โปรเจ็คต์หนังผีสยองของเวิร์คพอยท์”

พบกับความสยองมุมมองใหม่ที่กลั่นจากไอเดียของ “ทแก้ว เรืองรัตน์” ผู้กำกับโฆษณาฝีมือดี กับโปรเจ็คต์หนังผีสยองเรื่องแรกของ “เวิร์คพอยท์” ที่เราเชื่อว่าจะกระตุ้นต่อมอยากดูให้ทำงานทันทีกับปรากฎการณ์สุดระทึกกับหนังผีที่ที่ขอซีเรียส จริงจัง แบบเน้นๆ ร่วมด้วยการขึ้นจอใหญ่ของนักแสดงหนุ่มอย่าง เจสัน ยัง พร้อมรุ่นใหญ่มากฝีมือยอดชาย เมฆสุวรรณ แต่จับตาดูไฮไลท์สำคัญที่ “ซูซี่สุนิษา  แอนจิลีน่า  แน่นหนา” นางเอกหน้าใหม่ที่โปรดิวเซอร์อย่าง “พาณิชย์ สดสี” ยืนยันว่า คนนี้มีของ


ตามติดด้วยหนังตลกอารมณ์ดีที่ยังไงค่ายใบโพธิ์ก็ไม่เคยขาดหาย นำทีมเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะโดยตลกเบอร์1อย่าง หม่ำ จ๊กม๊กที่ปีนี้ประเดิม 3โปรเจ็คต์สุดฮาเริ่มที่



“หลวงพี่กับผีขนุน”

   ภาพยนตร์แนวเฮฮาหรรษา ผลงานกำกับของ ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล ที่เคยฝากผลงานสุดสยองจากเรื่อง “ศพ” มาคราวนี้ขอเปลี่ยนแนว กับผลงานสุดครื้นเครงที่จะทำให้ทุกคนได้ขำขันไปกับเรื่องราวของ 18 มงกุฏจอมลวงโลก ที่ถูกคุณโปลิสจอมเก๋าตามล่าหัว ต้องตกกระไดพลอยโจนไปเป็นพระใหม่โดยที่ไม่ทันตั้งตัว และกลายเป็นความหวังหนึ่งเดียวของชาวบ้านในการปราบผีขนุนสุดเฮี้ยน ที่จะทำให้คุณขากรรไกรค้างไปกับเรื่องราวชุลมุนอลเวง นำแสดงโดย “หม่ำ จ๊กมก”,“ทศพล ศิริวิวัฒน์” (ทศ 108 มงกุฏ,7ประจัญบาน1-2), “หนูจ๋า- อาชิรญาณ์  ภีระภัทร์กุญช์ชญา”      





“แหยมยโสธร2” และ  “วงษ์คำเหลา”

    หลังจากกำกับหนัง 100 ล้านมา 3 เรื่อง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม1-2, แหยมยโสธร หม่ำ จ๊กม๊ก กลับมาทำหนังรักอีกครั้ง แต่คราวนี้ขอเบิ้ลที่เดียว 2 เรื่องนั่นคือภาคต่อของหนังตลกรากหญ้าระดับ 100 ล้านอย่าง “แหยมยโสธร 2” ที่ฝากบอกแฟนๆ ปลายๆ ปีเตรียมตัวฮากันท้องคัดท้องแข็งได้เลย แต่กว่าจะถึงแหยม2 ขอลัดคิวฮาประมาณกลางๆ ปีด้วย “วงษ์คำหลา” หนังรักไฮโซที่หม่ำเตรียมตัวกำกับและแสดงเองมาถึง 2 ปี กับการฉีกคาแรคเตอร์หม่ำที่คุ้นตากับบทชายเพชราวุธ หนุ่มนักเรียนนอกผู้เงียบขรึม ทายาทหนุ่มผู้ดูแลกิจการ “วงษ์คำเหลา” จิวเวอร์รี่และคฤหาสน์ประจำตระกูล แต่กลับต้องเสน่ห์ความก๋ากั๋นเกินห้ามใจถึงขั้นตกหลุมรักหลุมเบ้อเร่อกับ พิรมาน (ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับพจมาน) (รับบทโดยนางเอกซุปเปอร์สตาร์สาวจั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ที่เลือกเองกับมือ) ครูสอนภาษาอังกฤษของจูเนียร์ (เฉลิม หม่ำโชว์) น้องชาย(คนเล็ก) ประจำตระกูลเข้าอย่างจัง  พรั่งพร้อมด้วยเหล่านักแสดงทั้งนอกและในสังกัดหม่ำโมเดลลิ่งที่มาร่วมสร้างสรรค์อลังการฮากันเพียบอาทิ ฉันทนา กิตติยาพันธ์, ฮาย-อาภาพร  นครสวรรค์, สมเล็ก ศักดิกุล, ตุ๊กกี้ชิงร้อย, แจ้ง อนุวัตน์ ทาระพันธุ์  (ยอดชายอะเฮ้ยแหยมยโสธร) ฯลฯ รับประกันความฮาไม่เป็นรองแหยมยโสธรอย่างแน่นอน  


“เด็กโข่ง”


   เคยทำหนังสั้น “หัวหน้า” เกี่ยวกับเด็กอนุบาลชนะใจแฟตฟิล์ม จนทุกคนที่ได้ดูถึงกับหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง กลายเป็นแรงบันดาลใจและที่มาของ “เด็กโข่ง” เรื่องราวหนุกหนานมันส์ฮาของสงครามแย่งชิงสนามเด็กเล่น และการก้าวขึ้นมาช่วงชิงความเป็นใหญ่ของแก๊งเด็กอนุบาล 3 ที่ทรงอิทธิพลที่สุดประจำจังหวัด (ประมาณว่าเหนือกว่าตำบาลและหมู่บ้าน) โดยมีสาวม.ปลายยอดดวงใจที่ “โอม” หัวหน้าแก๊งแพนด้าเจ้าของฉายา “เด็กโข่ง” ทุ่มเทให้หมดใจ หนังตลกไอเดียแจ่มจากผลงานการกำกับของ “คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา” (ขุนกระบี่ฯ , อสุจ๊าก) ที่เกณฑ์กลุ่มนักแสดงหน้าใหม่ทั้งรุ่นจิ๋ว(5-6ขวบ)ลงจอใหญ่ให้ฮากันถ้วนหน้าพร้อมสาวน้อยวัยทีนสุดน่ารักอย่าง “ยิปซี” คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์



โดยเตรียมประเดิมต้นปีด้วยความสุขกับหนังรักที่จะทำให้หัวใจเบิกบานถึงสองเรื่องสองรส รับวันเด็กอย่างอบอุ่น 8 ม.ค.ด้วย “ความสุขของกะทิ” หนังสือรางวัลซีไรต์ปี2549 ที่พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสกับความสุขที่แสนประทับใจเมื่อกะทิ เมื่อเรื่องราวความรักความผูกผันที่เคยเรียกเสียงหัวเราะ และหยดน้ำตาแห่งความประทับใจให้กับนักอ่านในรูปแบบนวนิยายขนาดสั้นที่มียอดขายกว่า 2 แสนเล่มในเมืองไทย และถูกนำไปแปลและตีพิมพ์ในอีก 9 ประเทศ อาทิ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี  ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สเปน อิตาลี และฝรั่งเศสเด็กหญิงวัย 9 ขวบกำลังจะโลดแล่นมีชีวิตเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ภาพบรรยากาศของบ้านริมคลอง ศาลาก้ามปู ฯลฯ ที่คอนิยายจะได้อิ่มเอมกับความห้วงอารมณ์และความรู้สึกที่แสนละเมียดละไมจากบทภาพยนตร์โดยเจ้าของบทประพันธ์ “งามพรรณ เวชชาชีวะ”  กำกับภาพยนตร์โดย เจน ไวยย์ ทองดีนอก ผกก.คลื่นลูกใหม่เจ้าของรางวัลขุนวิจิตรมาตรา งานประกวดภาพยนตร์สั้นของมูลนิธิหนังไทย และรางวัลรชฏเสมอ จากงานมหกรรมภาพยนตร์กรุงเทพฯ Bangkok Film Festival พร้อมทีมนักแสดงระดับฝีมืออาทิ รัชนก แสงชูโต, เข็มอัปสร สิริสุขะ, สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, จารุวรรณ ปัญโญภาส, ไมเคิล เชาวนาศัย, กฤษฎา สุโกศล แคลปป์, นิธิศ โค้วสกุลและขอแนะนำน้องพลอย-ภัสสร คงมีสุขในบท “เด็กหญิงกะทิ”



    รับวาเลนไทน์กับหนังรักรวมซูปเปอร์สตาร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง A MOMENT IN JUNE  เรื่องราว ความรัก ความสัมพันธ์ ของคนหกคน ถ่ายทอดผ่านเหตุการณ์ 2 ห้วงเวลาในปี 2515 และ 2542 ผ่านบทเพลงหนึ่งเพลงที่ทำให้ทั้งหกคนมาพบกัน เมื่อโอกาสครั้งที่สองผ่านเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง พวกเขาจะตัดสินใจอย่างไร โดยเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของสองนักแสดงนำต่างขั้ว ชาคริต แย้มนาม และ กฤษดา สุโกศล (น้อย วงพรู)  พร้อมร่วมถ่ายทอดเรื่องราวโดยเหล่านักแสดงคุณภาพชื่อดังอีกคับคั่ง อาทิ สินิทธา บุญยศักดิ์, เดือนเต็ม สาลิตุล, สุเชาว์ พงษ์วิไล, นภัสกร มิตรเอม  ร่วมด้วย  Hiro Sano และ  มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ผลงานการเขียนบทและกำกับโดยณัฐพล วงศ์ตรีเนตรกุล เจ้าของภาพยนตร์ขนาดสั้นเรื่อง BICYCLE & RADIO (ที่ผ่านการเข้ารอบชิงชนะเลิศ รางวัลSTUDENT ACADEMAY AWARDS2004)เจ้าของรางวัลEXCELLENT IN SHORT FILMMAKING AWARDS (จาก ASIAN AMERICAN INTERNATIONAL FILM FESTIVAL USA รวมทั้งชนะเลิศอีก 6 รางวัลจากทั่วโลก และเข้าร่วมใน 60 เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทั่วโลกรวมทั้งเทศกาลภาพยนตร์ที่เมือง CANNES